| การโคลน      การโคลน  (cloning) หมายถึง  การเพิ่มเซลล์จำนวนมากโดยการแบ่งตัวแบบไมโทซิสจากเซลล์ตั้งต้นหนึ่งเซลล์  หรือการเพิ่มประชาการสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนกันโดยวิธีการไม่อาศัยเพศจากสิ่งมีชีวิตตั้งต้นเพียงหนึ่งเซลล์ ดร.เอียน  วิลมุต (Dr.Ian Wilmut) เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวสกอต  ได้ทำการโคลนดอลลีสำเร็จด้วยวิธีการตามขั้นตอนดังนี้
                                         
 
                            ภาพที่      22 ขั้นตอนการโคลนแกะดอลลี ที่มา: หนังสือเรียน      รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ม.2 หน้า 85
 ตัวอย่างการโคลนแกะดอลลีมีขั้นตอน ดังนี้
 1.  นำเซลล์เต้านมมาจากแม่แกะฟินน์ดอร์เซต อายุ 6 ปี ซึ่งตั้งท้องมากกว่า              100 วัน แล้ว (แกะตั้งท้อง 150  วัน) ภายในเซลล์เต้านมทุกเซลล์จะบรรจุยีนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตเป็นตัวแกะไว้ครบทุกยีน  แต่จะมีเฉพาะยีนที่สร้างโปรตีนสำหรับ           การเจริญเป็นเซลล์เต้านมเท่านั้นที่ทำงาน ส่วนยีนอื่น ๆ  จะถูกปิสวิตช์ไว้ไม่ให้ทำงาน
 2.  นำเซลล์เต้านมมาเพาะเลี้ยงในภาวะอดอาหารประมาณ 5 วัน โดยลดเซรุ่มในสารเพาะเลี้ยงเซลล์ให้เหลือเพียง  1 ใน 20 เพื่อให้เซลล์เข้าสู่ระยะพักตัว และหยุดการแบ่งตัว ณ ภาวะเช่นนี้  ยีนทุกยีนภายในเซลล์จะเริ่มปิดสวิตช์ใหม่อีกครั้ง
 3.  เก็บเซลล์ไข่ที่ยังไม่ปฏิสนธิมาจากท่อนำไข่ของแม่แกะหน้าดำพันธุ์สกอต  หลังจากฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ไปแล้ว 28  33 ชั่วโมง
 4. ดูดนิวเคลียสของเซลล์ไข่ออกไป ภายในเซลล์ไข่จะว่างเปล่า  เหลือแต่เพียงองค์ประกอบ ภายในไซโทพลาซึม ที่จำเป็นต่อการสร้างตัวอ่อน
 5.  นำเซลล์เต้านมและเซลล์ไข่ มาหลอมรวมกันโดยใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ  กระตุ้นเมื่อกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง เซลล์ไข่เริ่มยอมรับนิวเคลียส ใหม่และเหนี่ยวนำให้ยีนทุกยีน ในนิวเคลียสเริ่มต้นทำงาน  และแบ่งตัวเพื่อพัฒนาเป็นตัวอ่อนขึ้นมาใหม่
 6.  ปล่อยให้เซลล์แบ่งตัวประมาณ 6 วัน เซลล์ของตัวอ่อนจะเข้าสู่ระยะ             บลาสโทซิสต์
 7.  นำตัวอ่อนในระยะบลาสโทซิสต์ไผฝังในมดลูกของแม่แกะหน้าดำอีกตัวหนึ่งซึ่งรับหน้าที่อุ้มท้อง
 8.  แม่แกะหน้าดำที่อุ้มท้อง ให้กำเนินลูกแกะฟินน์ดอร์เซต  ซึ่งมีลักษณะทางพันธุกรรม เหมือนแม่แกะฟินน์ดอร์เซต เจ้าของเซลล์เต้านมทุกประการ
 ข้อดีของการโคลน 1.  เมื่อทำการโคลนพืชและสัตว์ขึ้นมาจำนวนมาก เท่ากับเป็นการเพิ่มปริมาณพืชและสัตว์ให้เพียงพอกับความต้องการทางเศรษฐกิจ
 2.  การโคลนทำให้ได้พืชและสัตว ์ที่มีลักษณะเหมือนต้นแบบทุกประการขึ้นมา  ทำให้สามารถคัดเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่ดี ๆ มาเผยแพร่ได้  โดยไม่ต้องเกรงว่าจะเกิดการกลายเหมือนการผสมเทียม
 3.  ใช้ในการผลิตคิดค้นตัวยาใหม่ ๆ  เนื่องจากสัตว์และพืชที่เกิดจากการโคลนจะมีพันธุกรรมเหมือนกัน ดังนั้น  ทำให้ผลการทดลอง ยามีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น  เพราะไม่เกิดปัญหาเรื่องตัวแปรอันเกิดจากความแตกต่างของสัตว์ทดลองในชุดเดียวกัน
 4. การโคลนมนุษย์เพื่อประโยชน์ ในแง่อะไหล่อวัยวะ แต่ประโยชน์ข้อนี้เป็นที่ยอมรับได้ยาก  เนื่องจากเป็นประโยชน ์เฉพาะตัวผู้โคลนเองโดยเฉพาะ
 5.  ช่วยให้ครอบครัวที่ไม่มีบุตรสามารถมีบุตรได้
 6.  ในกรณีที่สัตว์หายากสูญพันธุ์ไปแล้วก็สามารถใช้การโคลนเป็นการเพิ่มปริมาณและขยายพันธุ์สัตว์ได้
 
 
 ข้อเสียของการโคลน
 1.  เมื่อทำการโคลนพืช และสัตว์ขึ้นมามาก จะทำให้ขาดความหลากหลายในสายพันธุ์  เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เช่น เกิดโรคระบาย  มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศก็จะทำให้พืชและสัตว์ล้มตายกันหมด
 2.  ในพืชและสัตว์ที่เกิดการโคลนจะต้องใช้สารเคมีและฮอร์โมนต่าง ๆ ดังนั้น สารเคมีและฮอร์โมนบางชนิดจะตกค้างอยู่ในเซลล์  เมื่อนำมาบริโภคอาจจะเกิดผลร้ายแก่ร่างกายผู้บริโภคได้
 3.  ในแง่การโคลนเพื่อนำอวัยวะมาใช้ ถ้าเป็นไต ไขกระดูก  สามารถทำมนุษย์โคลนขึ้นมามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ถ้าอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ปอด  เช่นนี้ก็จะเป็นโคลนขึ้นมาเพื่อฆ่า ถือว่าผิดศีลธรรมอย่างมาก
 4.  เกิดปัญหาทางสังคม สภาพทางครอบครัว  เพราะถ้ามีการโคลนมนุษย์ขึ้นมาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ แล้ว  เด็กที่เกิดมาจะถือว่ามีสถานภาพเป็นอะไร  และเมื่อเด็กเหล่านี้ขาดความรักและการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวแล้ว  ทำให้ต่อไปอาจก่อเป็นปัญหาทางสังคมขึ้นมาได้
 5.  เมื่อทำการโคลนแล้ว มนุษย์จะมีลักษณะเหมือนกันทุกประการไม่ว่าเลือด ดีเอ็นเอ  ลายนิ้วมือ ทำให้ถ้ามีการทำผิดกฎหมายก็จะจับแยกแยะไม่ได้ว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำ
 |