|             พฤติกรรมต่าง ๆ ในสัตว์จำแนกได้เป็น 2  ประเภท คือ 1. พฤติกรรมที่มีมาแต่กำเนิด เป็นพฤติกรรมง่าย ๆ  ตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยไม่ต้องผ่านการเรียนรู้หรือประสบการณ์ มีแบบแผนที่แน่นอน  และแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิดของสัตว์ จำแนกได้ดังนี้
 1.1 พฤติกรรมที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าแบบไม่มีทิศทางที่แน่นอน เป็นพฤติกรรมที่พบในสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น การเคลื่อนที่หนีฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ของพารามีเซียม
 1.2 พฤติกรรมที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างมีทิศทางที่แน่นอน พบได้ในสิ่งมีชีวิตที่มีหน่วยรับความรู้สึก เช่น  การเคลื่อนที่เข้าหาแสงของตัวพลานาเรีย                  การเคลื่อนที่ของแมลงเม่าบินเข้าหาแสง
 1.3 พฤติกรรมแบบรีเฟล็กซ์ชนิดต่อเนื่อง จะประกอบด้วยพฤติกรรม ย่อย ๆ หลายพฤติกรรมซึ่งแต่เดิมเรียกว่า สัญชาตญาณ  ซึ่งจะมีมาแต่กำเนิด ไม่ต้องเรียนรู้มาก่อน เป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์แต่ละชนิด เช่น
 -  การสร้างรังของนก มีพฤติกรรมต่อเนื่อง เริ่มจากบินไปหาวัสดุ  เลือกจิกวัสดุที่จะนำมาใช้สร้างรัง บินกลับมาสร้างรัง  ทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องจนสร้างรังจนสำเร็จ การออกไข่ ฟักไข่  และการดูแลจนกว่าจะบินได้
 -  การชักใยของแมงมุม เพื่อใช้เป็นกับดักแมลงเล็กที่บินมาติดแล้วรับจับกินเป็นอาหาร
 -  การดูดนมของทารก มีพฤติกรรมต่อเนื่อง เริ่มจากสิ่งเร้า คือ ความหิว  การสัมผัสกับหัวนมกระตุ้นให้เกิดการดูดนมและกลืน  เป็นปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ที่ต่อเนื่องกันหลาย ๆ พฤติกรรมจนกว่าทารกจะอิ่ม
 -  การอพยพของนกปากห่าง เพื่อหนีอากาศที่หนาวเย็น
 -  การจำศีลของกบ เป็นพฤติกรรมการหลีกเลี่ยงความแห้งแล้งหรือความหนาวเย็น  การขาดแคลนอาหาร โดยหลบไปอยู่ในรูใต้พื้นดิน หายใจอย่าง            ช้า ๆ  เพื่อลดการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
 2.  พฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ เป็นพฤติกรรมที่เกิดจากประสบการณ์และการเรียนรู้ของสัตว์  พบในสัตว์ชั้นสูงที่มีระบบประสาทเจริญดี นอกจากนี้สัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่จะมีสังคมของตนเอง  จึงมีพฤติกรรมในการสื่อสารติดต่อกัน ดังนี้
 2.1 การสื่อสารด้วยท่าทาง เช่น  การแยกเขี้ยวของสุนัข การหมอบของสุนัขเพื่อแสดงความนอบน้อมหรือกลัว  การบินและการเต้นระบำของผึ้งเมื่อพบอาหาร
 2.2 การสื่อสารด้วยเสียง เช่น  การส่งเสียงร้องของกบและแมวในการเรียกหาคู่  สุนัขได้ยินเสียงกระดิ่งทุกครั้งจะได้รับอาหาร  ต่อมาไม่มีอาหารมาวางมีเพียงเสียงกระดิ่ง  สุนัขก็จะมีน้ำลายไหลออกมาเหมือนมีอาหารมาวาง เสียงเตือนภัยของแม่ไก่  ทำให้เกิดการรวมกลุ่มของไก่
 2.3 การสื่อสารด้วยการสัมผัส เช่น  สุนัขเลียปากสุนัขด้วยกันเพื่อบอกถึงความอ่อนน้อม
 2.4 การสื่อสารด้วยสารเคมี เพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม  เพื่อบอกอาณาจักร หรือเพื่อการนำทาง เช่น การเดินทางไปหาอาหารของมด  การฉี่ของสุนัขเพื่อครอบครองพื้นที่
 |